คุณ lagom  เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2551, 16:18:33

แนะนำว่า: มี 2 ประเภทค่ะ คือ

(1) ปริ้นเตอร์ หรือเครื่องพิมพ์แบบใช้แรงกระแทก (impact printers) ได้แก่ เครื่องพิมพ์แบบดอทแมทริกซ์ (dot-matrix printers) และเครื่องพิมพ์แบบบรรทัด (line printers)

(2) ปริ้นเตอร์ หรือเครื่องพิมพ์แบบไม่ใช้แรงกระแทก (non-impact printers) ได้แก่ เครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ต (ink-jet printers) เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ (laser printers) เครื่องพิมพ์แบบใช้ความร้อน (thermal printers) และเครื่องพิมพ์พลอตเตอร์ (plotter)

คุณ pood007 เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2553, 19:55:41

แนะนำว่า: ผมตอบตามที่ผมเคยพบมาก็แล้วกันนะ ห้ามอ้างอิงทางวิชาการเด็ดขาด

ถ้าไม่ถูกก็บอกด้วยยินดีน้อมรับ ผมเจอมา 5 ประเภทตามลักษณะของวัสดุสิ้นเปลืองที่่ใช้ครับ

1. แบบหัวเข็มหรือแบบหัวเข็มกระแทกตามที่เรียกกันก็ได้ ( Dotmattrix) ใช้ผ้าหมึกเป็นกลักคั่นกลางระหว่างหัวเข็มกับกระดาษ ส่วนมากใช้กับกระดาษก็อปปี้ พิมพ์เสียงดัง ๆ นั่นแหละใช่เลยหรือที่ออกใบเสร็จทั่ว ๆ ไปก็ใช้ พิมพ์ดำเป็นหลัก เพราะบางยี่ห้อมีผ้าหมึกสีเป็นออฟชั่น พิมพ์ช้าแต่ประหยัดค่าหมึกสุด ๆ อันดับหนึ่ง

2. แบบน้ำหมึก แต่ละยี่ห้อเรียกไม่เหมือนกันเป็นชื่อทางการค้าของแต่ละยี่ห้อ เช่น ของ HPเรียก Deskjet, Canon เรียก Bubble jet , Epson เรียก Inkjet แต่ปัจจุบันมักได้ยินเรียกอิงค์เจ็ตกันเยอะ ที่ใช้ตามบ้านทั่วไปมักจะเป็นประเภทนี้แหละ พิมพ์ดำก็ได้สี่ก็ดี ที่่นิยมมากในขณะนี้คือนำไปดัดแปลงต่อหมึกอยู่นอกเครื่อง ( แท้งค์ ) ราคาเครื่องส่วนใหญ่จะถูกกว่าแบบอื่น ๆ

3. เครื่องแบบใช้ผงหมึก ซึ่งบางท่านอาจจะบอกว่าแบบเลเซอร์ก็ได้ มีทั้งแบบพิมพ์ดำอย่างเดียวและแบบพิมพ์สีได้ด้วย มีบางยี่ห้อที่ไม่ได้ใช้แสงเลเซอร์ในการทำงานก็มีเช่น Brother HL- 3040CNใช้ระบบ LED เครื่องพวกนี้ทำงานได้รวดเร็ว ถ้ารุ่นไหนเป็นแบบสี ค่าหมึก (ของแท้) ชุดหนึ่ง 4 สี ก็ประมาณ หมื่นบาท บวกลบกว่านี้ขึ้นอยู่กับยี่่ห้อและรุ่น ใช้กันมากกับพวกสำนักงานครับ ( มีบางยี่ห้อทำเป็นก้อนคล้ายลูกเต๋าก็มี ลักษณะก็เป็นผงอัดประมาณนี้)

4. แบบฟิล์มหรือแบบดรายซัพ เจอมากกับเครื่องพิมพ์รูปถ่ายขนาดเล็ก ๆ ครับ ประเภทนี้เวลาซื้อ ชุดฟิล์มกับกระดาษโฟโต้จะมาด้วยกัน ทำงานโดยพิมพ์ทีละสีจนครบ 4 สีครับเช่น Canon ตระกูล CP760,770,780 ของยี่ห้อ Kodak และ Sony ก็มี แต่จำรุ่นไม่ได้ครับ เน้นงานรูปเป็นหลัก ตามท้องตลาดอาจจะหายากสักหน่อยแต่ก็มียังมีให้เห็นอยู่ ขนาดส่วนใหญ่ ก็พิมพ์ที่ 5 X 7 นิ้วเป็นหลัก ใช้แบบนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องหัวพิมพ์อุดตันครับ

5. แบบกระดาษเทอร์มอลหรือแบบความร้อน เครื่อง ATM กับเครื่องรูดการ์ด ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ กระดาษหลังจากพิมพ์แล้วเก็บไว้นานไม่ได้เพราะข้อความหรือรูปที่พิมพ์จะจางหายครับบางครั้งจะเห็นระบบนี้กับเครื่องรับ - ส่ง FAX บางรุ่นด้วยครับ

ทั้งหมดที่ท่านอ่านมานั้นคือความเห็นจากผู้ใช้งาน เมื่อปี พ.ศ. 2551 และ 2553

เครื่องพริ้นเตอร์ (Printer) มีหลายประเภทตามเทคโนโลยีการพิมพ์และการใช้งานที่แตกต่างกัน นี่คือประเภทหลัก ๆ ของเครื่องพิมพ์ :

ประเภทของเครื่องพิมพ์

         1.เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer)

การทำงาน: ใช้หัวพ่นหมึกเพื่อสร้างภาพบนกระดาษ โดยมีการพ่นหยดหมึกเล็ก ๆ ลงบนกระดาษ

การใช้งาน: เหมาะสำหรับการพิมพ์เอกสารทั่วไป รูปภาพ และงานกราฟิก

ตัวอย่างยี่ห้อ: HP, Canon, Epson, Brother

         2.เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer)

การทำงาน: ใช้แสงเลเซอร์และผงหมึก (Toner) ในการสร้างภาพบนกระดาษ โดยการถ่ายโอนผงหมึกผ่านลูกกลิ้ง

การใช้งาน: เหมาะสำหรับการพิมพ์เอกสารจำนวนมาก และต้องการความเร็วสูง

ตัวอย่างยี่ห้อ: HP, Brother, Samsung, Lexmark

         3.เครื่องพิมพ์ดอทเมทริกซ์ (Dot Matrix Printer)

การทำงาน: ใช้หัวพิมพ์ที่มีเข็มเล็ก ๆ ตีผ่านแผ่นหมึกลงบนกระดาษเพื่อสร้างภาพหรือข้อความ

การใช้งาน: เหมาะสำหรับการพิมพ์ใบเสร็จ ใบกำกับภาษี และงานที่ต้องพิมพ์หลายสำเนา

ตัวอย่างยี่ห้อ: Epson, OKI

         4.เครื่องพิมพ์ซับลิเมชั่น (Dye-Sublimation Printer)

การทำงาน: ใช้ความร้อนในการระเหิดสีจากฟิล์มสีไปยังวัสดุพิมพ์ (เช่น กระดาษพิเศษ)

การใช้งาน: เหมาะสำหรับการพิมพ์ภาพถ่ายคุณภาพสูง

ตัวอย่างยี่ห้อ: Canon, Epson, Mitsubishi

         5.เครื่องพิมพ์ความร้อน (Thermal Printer)

การทำงาน: ใช้ความร้อนเพื่อสร้างภาพหรือข้อความบนกระดาษความร้อน

การใช้งาน: เหมาะสำหรับการพิมพ์ใบเสร็จ บาร์โค้ด และฉลากสินค้า

ตัวอย่างยี่ห้อ: Zebra, Dymo

         6.เครื่องพิมพ์สามมิติ (3D Printer)

การทำงาน: ใช้การสร้างวัตถุสามมิติจากการพิมพ์ชั้นวัสดุทีละชั้น (เช่น พลาสติก, เรซิน)

การใช้งาน: เหมาะสำหรับการสร้างต้นแบบ การผลิตชิ้นส่วน และงานวิจัย

ตัวอย่างยี่ห้อ: MakerBot, Ultimaker, Prusa

         7.เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน (Multifunction Printer - MFP)

การทำงาน: รวมความสามารถของการพิมพ์ การสแกน การถ่ายเอกสาร และการแฟกซ์ไว้ในเครื่องเดียว

การใช้งาน: เหมาะสำหรับสำนักงานและธุรกิจที่ต้องการเครื่องพิมพ์ที่มีฟังก์ชันหลากหลาย

ตัวอย่างยี่ห้อ: HP, Canon, Brother, Epson

สรุป

การเลือกเครื่องพิมพ์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานของคุณ เช่น หากต้องการพิมพ์ภาพถ่ายคุณภาพสูง เครื่องพิมพ์ซับลิเมชั่นอาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากต้องการพิมพ์เอกสารปริมาณมากและรวดเร็ว เครื่องพิมพ์เลเซอร์อาจจะตอบโจทย์มากกว่า