หลังจากซื้อเครื่องปริ้นเตอร์มาใหม่หนึ่งเครื่อง เริ่มแรกที่ใช้งานพิมพ์นั้น จะมี "ตลับหมึกติดแถม" มาให้ด้วยกับตัวเครื่องปริ้นเตอร์ ซึ่งเป็น ตลับหมึกแท้คุณภาพดี "ตลับหนึ่ง" หรือ "ชุดหนึ่ง" ซึ่งเมื่อใช้งานในการพิมพ์ไปได้สักระยะ... จำนวนของ "น้ำหมึก" หรือ "ผงหมึก" ในตลับนั้น ก็จะลดลงเรื่อย ๆ การใช้งานการพิมพ์เริ่มซีดจาง... และหมดไปในที่สุด จนเมื่อไม่มี... หมึกติดออกมากับกระดาษหรือชิ้นงานพิมพ์ ไฟขึ้นว่าหมึกหมดหรือเครื่องปริ้นเตอร์แจ้งว่าหมึกหมด

สิ่งนี้หมายความว่า ถึงเวลาแล้ว! ที่ผู้ใช้...ต้องหาซื้อตลับหมึกของเครื่องปริ้นเตอร์นั้น ๆ มาเปลี่ยนใหม่ เพื่อให้งานการพิมพ์ ได้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการหาซื้อตลับหมึกปริ้นเตอร์นั้นก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน บางท่านอยู่ใกล้ศูนย์ IT ก็สามารถหาซื้อตลับหมึกปริ้นเตอร์ได้ง่ายหน่อย แต่ท่านที่อยู่ห่างไกลจากศูนย์ IT หรือร้านค้าหมึกปริ้นเตอร์ การเดินทางไม่สะดวก ก็สามารถค้นหาร้านค้าฯ สำหรับช้อปปิ้งหมึกปริ้นเตอร์ออนไลน์ได้เช่นกัน เพียงแจ้ง "รหัสหมึก , ยี่ห้อหมึกพิมพ์" ของเครื่องปริ้นเตอร์ และรุ่นเครื่องปริ้นเตอร์ ให้กับผู้ค้า เพื่อให้เขาหา "ตลับหมึกปริ้นเตอร์" ได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง ตรงตามรุ่นที่ใช้งาน ถ้าต้องการ "ใบกำกับภาษี" ก็ให้แจ้งผู้ค้าเพิ่มเติมไปด้วยได้เลย

เมื่อหาซื้อตลับหมึกปริ้นเตอร์ได้เรียบร้อยแล้ว ก็ต้อง "ถอดตลับหมึกปริ้นเตอร์" ของเก่าออก การถอดตลับหมึกปริ้นเตอร์เพื่อเปลี่ยนใส่เข้าไปภายใน "เครื่องปริ้นเตอร์" แต่ละรุ่นนั้น ก็จะคล้าย ๆ กัน การออกแบบของเครื่องปริ้นเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นอิงค์เจ็ทหรือโทเนอร์ แต่ละเครื่องไม่ได้ซับซ้อนอะไรนัก โดยมากเปิดฝาออกมาก็เจอแล้ว บางรุ่นอาจต้องกดเพื่อให้ตลับเด้งออก บางรุ่นอาจใช้การปลดล็อก บางรุ่นดึงออกตรง ๆ ได้เลย คือถอดออกมาแบบไหนก็ใส่ตลับหมึกใหม่เข้าไปให้เหมือนเดิม หรือจะ "ถ่ายรูปไว้ก่อน" กันลืมก็ได้เช่นกัน แต่อย่าลืม "แกะซีล" ที่ติดมากับตลับหมึกปริ้นเตอร์ออกนะครับ ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวพิมพ์ไม่ออกจะหาว่าหล่อไม่เตือน

อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลเครื่องปริ้นเตอร์นั้น ๆ ในคู่มืออย่างละเอียดก่อน ไม่ยากครับ เชื่อผม!

สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ร่ำรวย มั่งคั่ง ทุกคนนะครับ

ครั้งแรก : 15 กรกฎาคม 2555 อัปเดตล่าสุด : 23 พฤษภาคม 2567